ตำนาน Mr.Copy  
กลับหน้าหลัก | สินค้า & บริการ | การทำหนังสือ | หนังสือน่าอ่าน | สนใจเปิดร้านถ่ายเอกสาร | หน้าแรก เว็บบอร์ด | Contact us
 


 
   mr-copy.com สุดยอดร้านถ่ายเอกสาร ที่คุณจะต้องติดใจ
 
ทำยังไงถึงจะได้ราคาถูกมาก ๆ

ที่อเมริกาถ่ายเอกสารแผ่นหนึ่ง 3 บาท ทั้งที่ค่าหมึกและอะไหล่ต่าง ๆ เค้าถูกกว่าเรามาก แถมเป็น 3 บาทที่ต้องยืนถ่ายเองด้วย แต่เมืองไทยเราถัวเฉลี่ยอยู่ที่หน้าละ 50 สตางค์ บางที่ถูกไปจนถึงหน้าละ 35 สตางค์ก็มี แล้วทำไงเราถึงจะได้ราคาถูกแบบนั้นบ้าง?

การจะสั่ง Order ร้านถ่ายเอกสารให้ได้ราคาถูก มีหลายช่องทางครับ ยิ่งเราช่วยลดต้นทุนให้ร้านมากเท่าไหร่ ร้านแต่ละร้านก็จะได้ลดให้น้อง ๆ ได้มากขึ้นเท่านั้นครับ ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจต้นทุนร้านถ่ายควบคู่ไปด้วย หลักต่อไปนี้ใช้ได้กับแทบทุกร้าน เพราะแต่ละร้านต้นทุนแทบไม่ต่างกันมากครับ

  1. สั่งเป็นจำนวนมาก Sheet อาจไม่เห็นผลนัก แต่ถ้าเป็นหนังสือจะเห็นผลต่างชัดเจนกว่ามาก การสั่งถ่ายหนังสือ 1 เล่ม กับทำสำเนาหลายเล่มราคาต่างกันมากครับ (0.45 กับ 0.35)
    เช่น หนังสือหนา 1,000 หน้าราคาก็จะต่างกันถึง 100.- บาท ทีเดียว (450 กับ 350 บาท)
    ที่เป็นอย่างนี้เพราะการถ่ายหนังสือนั้น ยุ่งยากกว่า Sheet หลายเท่า ถัวเฉลี่ยถ่ายหนังสือใช้เวลาประมาณ 6 หน้า/นาทแต่ถ้าเป็น Sheet ถ่ายได้ถึง 60-100 หน้า/นาท ต่างกันถึง 10 เท่า ดังนั้นสมมุติถ่ายหนังสือได้เพียง 100 แต่เป็น Sheet จะได้ถึง 1,000.- ต่อวัน(10 เท่า) พอมองออกใช่ไหมครับ ว่าทำไมยิ่งสั่งหนังสือหลายสำเนา ทำไมยิ่งถูกลง
    *ถ้าเรารวบรวม order จากเพื่อน ๆ มาหลาย ๆ เล่ม ก็จะเพิ่มอำนาจต่อรองเราให้ได้ราคาถูกลงครับ*
  2. บริการตัวเอง หนังสือบางเล่มอาจไม่เป็นที่ต้องการ จำนวนไม่มาก หรือคนถ่ายอาจไม่มีใครคบ :P แต่อยากได้ส่วนลดเยอะ ๆ และอยากได้ของคุณภาพดี ๆ เวลาต่อรองกับร้านถ่าย ส่วนไหนที่เราพอจะทำเองได้ เราก็ขอทำเอง แต่ขอให้ร้านช่วยลดราคาลงแบบสมเหตุสมผล เช่นปกติถ่ายหนังสือเล่มเดียว หน้าละ 0.45 แต่ถ้าหลายเล่มหน้าละ 0.35 เรามีตังค์แค่ซื้อแค่เล่มเดียว อยากได้ราคาเท่ากับหลายเล่ม ก็อาจขอยืนถ่ายเอง สวยไม่สวยไม่เป็นไร เลื่อกช่วงที่ร้านไม่ใช้เครื่อง มาขอถ่ายเอง บางร้านก็อาจะยอมก็ได้ครับ
  3. ประหยัดเวลา Order ไหนที่ทำง่ายและประหยัดเวลามาก ก็จะมีส่วนลดได้มาก เพราะนอกจากค่าแรงแล้ว ค่าเช่าร้าน ค่าเสียโอกาส ยังเป็นต้นทุนที่สำคัญ เวลาหมดไปหนึ่งวันฟรี ๆ อาจหมายถึงขาดทุนไปแล้ว 1 พันบาท งานที่ประหลาด ๆ เสียเวลาร้านมาก อาจต้องจ่ายเป็นพัน ทั้งที่เราทำเองที่บ้านก็ได้ง่ายกว่า ดังนั้นถ้าคิดแบบนี้ อะไรทำเองได้ เราก็ทำเองดีกว่าครับ เพราะเวลาที่เสียไป ทุก ๆ ร้านย่อมลำบากใจที่จะลดให้ครับ แต่ถ้าเป็นสมัยเรียนถึงไหนถึงกัน ทำให้เพื่อนฟรีอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องกังวลค่าผ่อนตึก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก ฯลฯ เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พ่อแม่เราเป็นคนจ่ายให้ครับ เราเลยทำงานฟรีได้หมด ถือว่าน้อง ๆ ได้โปรดสงสารลูกเจ้าของร้านตาแป๋ว ๆ อย่างเจ้าก๊อปปี้ครับ เดี๋ยวมันไม่มีตังค์กินข้าว
  4. มาให้เห็นหน้าบ่อย ๆ ทุกร้านเหมือนกันหมดครับ อยากมีลูกค้าประจำที่เราจะบริการสุด ๆ ด้วยราคาพิเศษสุด ๆ ให้อย่างถึงใจ ดังนั้นหางานเข้าให้ร้านไหนบ่อย ๆ คุณก็มีโอกาสได้ราคาถูกมาก ๆ น้องบางคนอาจอิจฉาเพื่อน ที่ได้ส่วนลดมากกว่า เราก็ควรถือว่าเพื่อนมีความสามารถนำงานมาให้ร้าน และที่จริงต้องขอบคุณเพื่อนที่ลำบากเอามาให้ และร้านจะตั้งใจทำงานให้เพื่อนเราอย่างดีที่สุดในฐานะประจำ ดีกว่ากระจายกันเอามาให้ครับ แบบนี้นอกจากจะทำยากแล้ว ไม่รู้จะให้ใครพิเศษดี เพราะแต่ละคน ก็มาถ่ายแค่ 2-3 บา ไม่เหมือนรวมมาถ่ายทีเดียว 2-3 พันครับ
  5. ให้เวลาทำ-ไม่รีบเร่ง ลูกค้าบางคนงงว่าทำไมอัดรูปด่วนถึงแพงกว่ามาเอาพรุ่งนี้หลายเท่า ทั้งที่ก็ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไร หากจะให้เห็นภาพ เราลองนึกดูว่ากำลังอ่านหนังสืออย่างรีบเร่งสมาธิกำลังต่อเนื่อง แต่เพื่อนชวนออกไปกินข้าวทันที เราขออีก 15 นาทีก็ไม่ได้ พอจะกลับมาอ่านก็ต้องเริ่มทวนใหม่ นี่ล่ะครับ งานด่วน งานหลาย ๆ อย่างร้านจะเก็บเอาไว้ทำเวลาว่างตอนดึก ๆ หลังปิดร้าน เพราะเราไม่รู้ว่างานที่เรากำลังค้างอยู่ลูกค้าจะมาเอาเมื่อไหร่ หากเรามัวแต่ไปทำงานด่วน จะกลับมาทำงานจริงต้องมาเริ่มตั้งค่าสมาธิใหม่เสียเวลาไปอีกมาก และงานด่วนโอกาสเสียสูง มักไม่คุ้ม หากลูกค้าที่สั่งงานก่อนมาเอางานแต่เราไม่เสร็จเพราะเอาเวลา่ไปทำงานด่วนยิ่งแย่ใหญ่ ต้องลดให้ลูกค้ารายแรกอีก นี่ละ่ครับ งานด่วนถึงอาจจะต้องจ่ายแพงกว่างานไม่ด่วนครับ
  6. ใช้กระดาษราคาถูก ปรับหมึกให้ซีด ๆ หน่อย บางร้านใช้วิธีนี้ซึ่งก็ช่วยประหยัดลงได้ระดับหนึ่ง แต่ที่มิสเตอร์ก๊อปปี้เรา ไม่นิยมแนะนำลูกค้าแบบนี้ แม้ว่ากระดาษ Double A ราคาสูงกว่ากระดาษทั่วไป 20% ก็จริง แต่ต้นทุนถ่ายเอกสารไม่ได้มาจากกระดาษทั้งหมด ดังนั้นถ้าเอามาถ่าย Sheet 100 หน้า(หน้า-หลัง) ก็ต่างกันไม่ถึง 3 บาท ดังนั้นแม้จะขอให้ร้านถ่ายเอกสารใช้กระดาษธรรมดาได้ เพื่อให้ถูกลง ก็ไม่ได้จะลดลงซักเท่าไหร่ และคงลดไม่เท่ากับ 5 ข้อแรกครับ
  7. ยิ่งถูกมาก ยิ่งระวังให้มากครับ ในกรณีที่ถูกมาก ๆ งานที่ได้อาจมีคุณภาพไม่พอ เพราะร้านที่รับงานในราคาถูกมาก ๆ ต้องทำเวลาให้ได้เร็ว ไม่งั้นไม่พอกับค่าใช้จ่ายทั้งค่าแรง ค่าเช่า ค่าผ่อนเครื่องถ่าย ค่าผ่อนตึกเป็นต้น เมื่อต้องทำให้ได้เร็ว ทำให้บางหน้าที่ตัวหนังสือจาง ๆ อาจมองไม่เห็น เพราะร้านไม่ทันดู(ต้องรีบไงครับ) บางทีถ่าย ๆ ไป ได้หน้าไม่ครบ หายไปก็มีครับ ดังนั้นอย่าจ้องแต่จะหาร้านราคาถูกอย่างเดียวครับ โอกาสหน้าหายเพียง 1 ใน 100 แต่การเสียเวลานั้นยิ่งใหญ่กว่าครับ
 
R User 
28 Nov 2008 - 15:43
61.7.174.233 
Add? Reply Mail to ryo_sakhu@hotmail.com Delete 



  ตอบในหัวข้อ : ทำยังไงถึงจะได้ราคาถูกมาก ๆหัวข้อรวม